ประวัติ ของ เคลลี คลาร์กสัน

วัยเด็ก และการเข้าสู่วงการ

เคลลี่เกิดที่เมืองฟอร์ธ วอร์ธ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยจีนเน่ แอน (นามสกุลเดิม โรส) เป็นครูสอนภาษาอังกฤษนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 และสตีเฟ่น ไมเคิล คลาร์กสัน เป็นวิศวกร เคลลี่มีพี่ชาย 1 คนชื่อ Jason ผู้ที่แสดงในมิวสิควิดีโอเพลงวอร์ค อเวย์ของเคลลี่ และพี่สาว 1 คนชื่ออลิซซ่า พ่อแม่ของเคลลี่แยกทางกันตั้งแต่เคลลี่อายุ 6 ปี ทำให้พี่ชายของเคลลี่ต้องไปอยู่กับคุณพ่อ และพี่สาวของเคลลี่ไปอยู่กับคุณป้า เหตุการณ์นี้เป็นแรงบันดาลใจให้เคลลี่แต่งเพลงบีคอส ออฟ ยู (Because Of You) ที่อยู่ในอัลบั้มเบรกอเวย์ (Breakaway) หลังจากนั้นแม่ของเคลลี่ได้แต่งงานใหม่กับจิมมี่ เทย์เลอร์ เคลลี่มีเชื้อสายกรีก อังกฤษ ไอริช เยอรมัน และสก็อต แม่ของเธอมีเชื้อสายสมาชิกวุฒิสภารัฐพรรครีพับบลิคคัน อายเซย์อาห์ ที่เคลลี่ได้ศึกษาในรายการสารคดีย้อนรอยประวัติครอบครัว ฮูดูทิ้งค์ยูอาร์ (Who Do You Think You Are?)

ตามที่เคลลี่ได้ให้สัมภาษณ์ ครอบครัวของเธอประสบปัญหาทางการเงิน และหลังจากที่คุณพ่อและคุณแม่ของเธอแยกทางกัน ดนตรีเป็นที่พึ่งของเคลลี่มาโดยตลอด เคลลี่เคยอยากเป็นนักชีววิทยา แต่เปลี่ยนใจหลังจากที่ดูภาพยนตร์เรื่อง จอว์ เคลลี่ศึกษาที่โรงเรียนพอลไลน์ ฮูจฮ์ มิดเดิลสคูล และในขณะศึกษาที่ระดับชั้นเกรด 7 ครูดนตรีได้ยินเสียงเธอที่โถงโรงเรียน และแนะนำให้เคลลี่ออดิชั่นคัดตัวเข้าวงดนตรีของโรงเรียน เคลลี่จบระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเบอร์เลสัน ไฮสคูล ที่เธอได้แสดงในละครเพลงหลายๆเรื่อง เช่น เรื่องแอนนี่เกทเดอะกัน เซเว่นบริจฟอร์เซเว่นบราเธอร์ และบริจาดูน เคลลี่ได้แสดงที่กิจกรรมแสดงความสามารถพิเศษ ที่เธอได้รับคำชมจากผู้ชมว่า "พระเจ้าได้ให้ของขวัญคุณ คุณได้ร้อง คุณมีชะตาในการร้อง" เคลลี่ร้องเพลงและฝึกร้องเพลงคลาสสิค เพื่อหวังว่าการร้องเพลงจะเป็นทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของเธอ ในที่สุด เคลลี่ได้รับทุนการศึกษาเต็มจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสติน มหาวิทยาลัยนอร์ธ เท็กซัส และวิทยาลัยดนตรีเบิร์คลี แต่สุดท้ายปฏิเสธทุนการศึกษา โดยบอกว่า "ฉันเขียนเพลงไว้เยอะมาก และต้องการจะตามฝันของฉัน" และ "ไม่มีใครแก่เกินไปสำหรับมหาวิทยาลัย"

หลังจากจบการศึกษาจากไฮสคูล เคลลี่ทำงานหลายๆอย่างเพื่อหาเงินสำหรับการอัดเดโม่ อุปกรณ์ดนตรี และพยายามส่งไปให้กับค่ายเพลงต่างๆ แต่ได้รับการตอบรับที่น้อยมาก เคลลี่ปฏิเสธสัญญากับค่ายเพลง จิฟเรคอร์ดส์ (Jive Records) และอินเทอร์สโคปเรคอร์ดส์ (Interscope Records) โดยกล่าวว่า "ค่ายเพลงเหล่านั้นคงจะให้ฉันเป็นนักร้องระดับล่าง ฉันมั่นใจว่าจะมีสิ่งดีๆตามมาในภายหลัง" ในปีค.ศ. 2001 เคลลี่ได้เดินทางไปนครลอส แอนเจลิส เพื่อหางานด้านดนตรี เคลลี่ยังแสดงเป็นบทเสริมในรายการโทรทัศน์หลายๆรายการ เช่น ซาบรีนา นักเวทย์วัยรุ่น และ ดฮามาและเกรก และทำงานเล็กน้อยกับ เจอร์รี่ กอร์ฟฟิน เพื่ออัดเดโม่ 5 เพลงเพื่อหาสัญญากับค่ายเพลง การไม่มีโอกาสทางด้านดนตรีและเหตุการณ์ไฟไหม้อพาร์ตเมนท์ทำให้เคลลี่ต้องกลับไปที่เบอร์เลสันที่เธอทำงานที่โรงภาพยนตร์ ร้านขายยา สวนสัตว์ โปรโมตเครื่องดื่มกระทิงแดง ทำการตลาดทางโทรศัพท์ และเป็นเด็กเสิร์ฟในคลับ

เคลลี่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่เคยได้รับการฝึกร้องเพลงแบบผู้เชี่ยวชาญ

ปีค.ศ. 2002-2003: อเมริกันไอดอล และเวิร์ลไอดอล

ปี 2002 ความฝันของเธอก็เป็นจริง นั่นคือการเป็นนักร้อง เธอชนะรายการอเมริกันไอดอล ในฤดูกาลแรก

ปีค.ศ. 2003-2004: อัลบั้ม Thankful

ในปีค.ศ. 2003 เคลลี่ได้ออกผลงานอัลบั้มแรกคือ Thankful (2003) ติดอันดับ 1 ทันทีที่วางจำหน่ายในอเมริกา มีซิงเกิลอันดับ 1 คือ A Moment Like This และ ซิงเกิลTop 5 Miss Independent ขายได้กว่า 3 ล้านแผ่นทั่วโลก

ปีค.ศ. 2004-2006: อัลบั้ม Breakaway

อัลบั้มสอง Breakaway เปิดตัวสัปดาห์แรกที่อันดับ 3 เป็นเวลา 38 สัปดาห์หลังอัลบั้มออกวางจำหน่าย อันดับอัลบั้มของเธอไม่เคยต่ำกว่าอันดับที่ 18 เลย ซิงเกิลฮิต Breakaway และ Since U Been Gone ติดอันดับ 1 ในอเมริกา Behind These Hazel Eyes ติดอันดับ 2 คงที่อยู่ 4 สัปดาห์

เคลลี่เป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกที่มีเพลงอันดับ 1 ในชาร์ตอเมริกาพร้อมกันสองเพลง (Breakaway อันดับ 1 Adult Contemporary และ Since U Been Gone อันดับ 1 Top 40 Chart เป็นศิลปินคนแรกที่มีสองเพลงดังอยู่ใน Top 3 ของ Billboard Pop Airplay 100 พร้อมกัน คือเพลง Since U Been Gone และ Behind These Hazel Eyes

ซิงเกิล Breakaway ติดอันดับ 1 Adult Contemporary Charts นาน 21 สัปดาห์ (ไม่ติดต่อกัน) เป็นศิลปินหญิงคนที่สองที่มีเพลงติดอันดับ 1 นานที่สุดเช่นเดียวกับเซลีน ดิออน ส่วนมิวสิกวิดีโอเพลง Since U Been Gone ได้รับรางวัล 2005 เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดสสาขา Best Pop Video และ Best Female Video นอกจากนี้เคลลี่เคยเดินทางมาเมืองไทยเพื่อร่วมแสดงบนเวที MTV Asia Aid เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2005 และเพื่อเปิดอัลบั้มชุดนี้ของเธอ

ปีค.ศ. 2007-2008: อัลบั้ม My December

อัลบั้มชุดที่สาม มีชื่อว่า My December โดยมิวสิกวิดีโอเพลง Never Again กับผู้กำกับคนดัง โจเซพ คาห์น ถ่ายทำในลอสแอนเจลิส [8] อัลบั้มนี้ได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์อย่าง David Kahne เคลลี่มี่ส่วนร่วมในการแต่งและโปรดิวซ์งานชุดนี้ด้วยตัวเอง และยังได้ Mike Watt (มือเบสที่เคยเล่นให้ Iggy Pop & The Stooges) มาร่วมงานด้วยถึง 3 เพลง[9]

ปีค.ศ. 2009-2010: อัลบั้ม All I Ever Wanted

ในปี 2009 เคลลี่ คลาร์กสัน สร้างสถิติบนชาร์ทบิลบอร์ดฮ็อต 100 นำซิงเกิล "My Life Would Suck Without You" กระโดดจาก 97 มาที่อันดับ 1 ถือเป็นเพลงที่ก้าวกระโดดสู่อันดับ 1 มากที่สุดในประวัติศาสตร์[10]

ปีค.ศ. 2011-2012: อัลบั้ม Stronger และรายการ ดูเอ็ท

ในปีค.ศ. 2011 เคลลี่ คลาร์กสันได้วางแผงอัลบั้ม Stronger และเป็นกรรมการและครูฝึกในรายการดูเอ็ท

ปีค.ศ. 2012-ปัจจุบัน: อัลบั้ม Greatest Hits: Chapter One และอัลบั้ม Wrapped In Red

ในปีค.ศ. 2012 เคลลี่ปล่อยอัลบั้มรวมเพลงฮิต Greatest Hits: Chapter One และในวันที่ 28 ตุลาคม ปีนี้ อัลบั้มคริสมาสต์อัลบั้มแรกของเคลลี่ ชื่อ "Wrapped In Red" จะวางขายอย่างเป็นทางการ

แหล่งที่มา

WikiPedia: เคลลี คลาร์กสัน http://www.billboard.com/bbcom/news/kelly-clarkson... http://www.examiner.com/article/kelly-clarkson-lan... http://www.grammy.com/artist/kelly-clarkson http://www.hollywoodreporter.com/idol-worship/amer... http://www.kellyclarkson.com/ http://www.kellyclarkson.com/us/biography http://www.mtv.com/news/articles/1686158/phillip-p... http://www.mtvthailand.com/News/200704/20000531.ht... http://www.wetpaint.com/american-idol/gallery/pipe... http://voices.yahoo.com/kelly-clarkson-breaks-brit...